การให้บริการรับทำวิจัยและให้บริการทางวิชาการ
สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (Institute for Technology and Innovation Management Mahidol University) มีความมุ่งมั่นในการนำ ภูมิปัญญามหิดลและความเชี่ยวชาญของบุคลากร ในแต่ละคณะฯ/ สถาบันในมหาวิทยาลัยมาบูรณาการประยุกต์ต่อยอด เพื่อสร้างสรรค์ให้ประจักษ์แก่สังคม ทั้งในรูปแบบองค์ความรู้และการให้บริการ วิชาการอันหลากหลาย โดยจะเป็นแกนกลางในการประสานความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภายนอก ทั้งจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสรรค์ให้ได้ผลงานหรืองานบริการทางวิชาการที่ตรงตามความต้องการ ของผู้รับบริการ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 02-849-6051
ประเด็นคำถามที่พบบ่อย (Q & A)
Q : การให้บริการรับทำวิจัย (หมวด 1) และ การให้บริการวิชาการ (หมวด 2) ต่างกันอย่างไร
A : การให้บริการรับทำวิจัย (หมวด 1) และ การให้บริการวิชาการ (หมวด 2) สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้ ดังนี้
Q : กระบวนการยื่นข้อเสนอ ในการให้บริการรับทำวิจัย จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : กระบวนการยื่นข้อเสนอ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1. การยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐ วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท
2. การยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐ ที่มีวงเงินเกิน 2 ล้านบาทและการยื่นข้อเสนอหน่วยงานภาคเอกชน (ทุกวงเงิน)
โดยมีขั้นตอนดังนี้
Q : ขั้นตอนในการขออนุมัติโครงการ การจัดทำสัญญา ในการให้บริการรับทำวิจัยจะต้องดำเนินการอย่างไร
A :
การระบุงบประมาณโครงการ (แบบฟอร์ม CR 04)
Q : งบประมาณในส่วนการบริหารงานโครงการ จะนำไปเข้าระบบ Pay roll หรือไม่
A : ระบบ Pay roll จะใช้สำหรับการโอนเงินเฉพาะหมวดค่าตอบแทน ที่เป็นบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยมหิดล เท่านั้น ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการบริหารงานโครงการ จะอยู่ในหมวดงบดำเนินงาน ซึ่ง มหาวิทยาลัย จะโอนเข้าบัญชีของส่วนงานที่เปิดตามข้อบังคับฯ ข้อ 18 ในนาม “เงินอุดหนุนการให้บริการ (ชื่อส่วนงาน) มหาวิทยาลัยมหิดล”
Q : หากมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรภายในโครงการ จะต้องทำแบบฟอร์ม CR 04 ใหม่ทุกครั้งหรือไม่
A : ใช่ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดใน CR 04 ต้องส่งแบบฟอร์ม CR 04 ฉบับใหม่ ทุกครั้ง
Q : การกรอกแบบฟอร์ม CR 04 ก่อนที่จะดำเนินการลงนามในสัญญา ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงาน เนื่องจากหลังลงนามอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร
A : อนุโลมให้กรอกตามหมวดค่าใช้จ่าย โดยยังไม่ต้องแจกแจงเป็นรายงวด เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องพิจารณาความถูกต้องในการคำนวณงบประมาณในหมวดต่าง ๆ อาทิ สัดส่วนของคณะทำงาน ผู้ร่วมโครงการ, ค่าธรรมเนียมบริการรับทำวิจัย
Q : ค่าตอบแทนของอาสาสมัคร อาทิ ผู้พิการ ผู้ป่วย ที่เข้าร่วมให้ข้อมูลกับโครงการ ต้องระบุไว้ในหมวดใด
A : หมวดงบดำเนินงาน
ด้านการเงิน
Q : การโอนเงินโครงการ มหาวิทยาลัยจะโอนเงินให้โครงการอย่างไร เข้าบัญชีใด
A : การโอนเงินมหาวิทยาลัยจะโอนเข้าบัญชี “เงินอุดหนุนการให้บริการวิชาการ (ชื่อส่วนงาน)” โดยทางส่วนงานจะเป็นผู้บริหารจัดการเงินในหมวดงบดำเนินงานให้แก่โครงการ
Q : กรณีที่โครงการมีงบประมาณในหมวดงบดำเนินงานเหลือ สามารถเปลี่ยนเงินไปเป็นหมวดค่าตอบแทนได้หรือไม่ จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : ในกรณีมีงบประมาณคงหลือ ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นหมวดค่าตอบแทนได้ โดยเมื่อมีงบประมาณคงหลือ พร้อมดอกเบี้ย ให้นำส่งเป็นรายได้ส่วนงาน เว้นแต่สัญญาหรือข้อตกลงของผู้ว่าจ้างจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
Q : โครงการสามารถยืมเงินตรงที่คลังของมหาวิทยาลัยได้หรือไม่
A : ในการณีการยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินการให้บริการรับทำวิจัย ให้โครงการยืมจากส่วนงานต้นสังกัด หากส่วนงานมีเงินไม่เพียงพอให้ส่วนงานทำเรื่องขอขยายวงเงินยืมส่วนงานมายังกองคลังของมหาวิทยาลัย (กรณีการยืมเงินต้องผ่านการพิจารณาจากส่วนงานต้นสังกัดแล้วเท่านั้น)
Q : ในกรณีที่แหล่งทุนไม่ได้แจ้งโอนเงินมายังมหาวิทยาลัย แต่โครงการส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว ทาง iNT
จะดำเนินการติดตามเงินให้หรือไม่
A : iNT จัดให้มีระบบ Tracking สำหรับการติดตามงวดงานและงวดเงินให้เป็นไปตามสัญญาจ้าง ทั้งนี้ เมื่อโครงการดำเนินงานในแต่ละงวดเรียบร้อยแล้ว โปรดแจ้งมายัง iNT โดย iNT จะดูแลและติดตามการเบิกจ่ายเงินในแต่ละงวดจากทางผู้ว่าจ้าง และประสานงานแจ้งกองคลัง เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายเงินและจัดสรรให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
พัสดุ/จัดซื้อจัดจ้าง
Q : กรณีที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุในวงเงินเกินหนึ่งแสนบาทและต้องจัดซื้อจากต่างประเทศ ต้องดำเนินการอย่างไร
A : กรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุครั้งหนึ่งครั้งใดที่มีวงเงินเกิน 100,000 บาทขึ้นไป ให้หัวหน้าโครงการส่งเรื่องให้หน่วยงานพัสดุของส่วนงาน ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุและการบริการพัสดุตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยใช้แบบฟอร์มเสนอขอจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ได้ที่ https://int.mahidol.ac.th/radownload/
Q : การจัดซื้อจัดจ้างกรณีเร่งด่วน ต้องดำเนินการอย่างไร
A : กรณีที่หัวหน้าโครงการ ได้พิจารณาแผนการดำเนินงานของโครงการที่ให้บริการรับทำวิจัย หรือให้บริการทางวิชาการแล้ว ไม่อาจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามปกได้ทันต่อการใช้งาน ให้หัวหน้าโครงการขอความเห็นชอบจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกรณีจำเป็นเร่งด่วนพร้อมชี้แจงเหตุผลต่อผู้มีอำนาจอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างของส่วนงาน เพื่อให้ความเห็นชอบในการจัดซื้อจัดจ้าง ครั้งหนึ่งครั้งใดที่มีวงเงินเกิน 100,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ตามแบบฟอร์มขอความเห็นชอบจัดซ้อจัดจ้างพัสดุ (กรณีจำเป็นเร่งด่วน) โดยใช้แบบฟอร์มเสนอขอจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ได้ที่ https://int.mahidol.ac.th/radownload/
ค่าธรรมเนียมการให้บริการรับทำวิจัยฯ
Q : หากผู้ว่าจ้างกำหนดว่าจะไม่สนับสนุนในส่วนของค่าธรรมเนียมมหาวิทยาลัย โครงการต้องดำเนินการอย่างไร
A : กรณีแหล่งทุน/ผู้ว่าจ้าง เป็นส่วนงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการรับทำวิจัยและโครงการให้บริการทางวิชาการ ให้เป็นไปตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ของแหล่งทุน/ผู้ว่าจ้าง นั้น โดยส่วนงาน/โครงการ จักต้องแนบประกาศ ระเบียบหรือหลักเกณฑ์ มายังมหาวิทยาลัยเพื่อประกอบการพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมด้วยทุกครั้ง
Q : การหักค่าธรรมเนียมการให้บริการรับทำวิจัยฯ มหาวิทยาลัยมีหลักเกณฑ์หรือไม่ว่าจะหักจากหมวดงบประมาณใดของโครงการ
A : การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการรับทำวิจัย ดำเนินการตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการรับทำวิจัยและโครงการให้บริการทางวิชาการ พ.ศ. 2561 โดย มหาวิทยาลัยจัดเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของวงเงินตามสัญญาหรือข้อตกลง
ปัญหาในการจัดทำสัญญาโครงการ
Q : หากผู้ว่าจ้างมีแบบฟอร์มสัญญาของหน่วยงาน แต่นิติกรของ iNT แจ้งแก้ไขสัญญาและผู้ว่าจ้างไม่สามารถแก้ไขได้ จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : ในกรณีที่ส่วนงานได้เจรจาแล้ว แต่ผู้ว่าจ้างไม่ยินยอมแก้ไขในข้อใดข้อหนึ่ง หรือมีความประสงค์แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสาระสำคัญของสัญญา ขอให้ผู้ประสานงานของส่วนงานดำเนินการประสานมายัง นิติกร ของสถาบันเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อดำเนินการเจรจากับผู้ว่าจ้างต่อไป
การเก็บเอกสาร/หลักฐานต่าง ๆ ของโครงการ
Q : การจัดเก็บเอกสารการรายงานข้อมูลโครงการ/ใบเสร็จ/ใบสำคัญรับเงิน เป็นระยะเวลา 10 ปี ต้องจัดเก็บด้วยวิธีใด (ไฟล์หรือเอกสาร)
A : สัญญาจ้างและเอกสารหลักฐานทางการเงิน เอกสารจัดซื้อจัดจ้าง ให้จัดเก็บในรูปแบบเอกสาร ส่วนข้อมูลการส่งมอบงาน รายงานตามงวดงาน สามารถจัดเก็บในรูปแบบไฟล์เอกสารได้
*********************************************************************